....ในขณะที่เราคิดถึงคนคนหนึ่งตลอดเวลา....
เขาคนนั้น...ก็อาจคิดถึงคนอื่นอยู่ก็เป็นได้...
และบางครั้ง...ก็อาจมีคนที่คิดถึงเรา...โดยที่เราไม่ได้สนใจเลยเช่นกัน
....บางครั้ง การได้ฝันไปคนเดียว มันก็ดีกว่าการได้รู้ความจริงที่ว่า
สิ่งที่เราคิดทั้งหมดนั้น มันคือ "ความฝัน" ของเราเองเพียงคนเดียว
....ฉะนั้น ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ เลือกที่จะจมกับความฝัน
มากกว่าการได้รู้ความจริง
....การไม่ได้เป็นที่ 1 ในใจเขา ไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า....
เราอาจเป็นที่ 2 ซึ่งมันก็ยังดีกว่าเป็นที่ 3 ที่ 4
และถ้าหากเราเป็นที่ 10 ในใจเขา...ก็ขอให้คิดไว้ว่า...
ดีกว่าเราไม่มีความสำคัญอะไรในใจเขาเลย
....แต่โปรดจำไว้เถอะว่า....ไม่ว่าเธอจะรู้สึกเหนื่อยล้าเพียงใด
ก็ขอให้เธอจง "รัก" ต่อไป
เพราะการ "รัก" ใครสักคนนั้น ไม่ต้องการ "ความพยายาม"
"การตัดใจ" ต่างหากที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากมาย
....ลองชั่งน้ำหนักในใจเราดูสิว่า....ความสุขยามที่ได้สบตาเขา
กับความทุกข์ยามที่เธอต้องคอยหลบตาเขา อันไหนมันหนักหนากว่ากัน
++อย่าโทษตัวเอง ที่มาเจอเขาสายเกินไป++
++อย่าโทษเขา ที่ไม่มีใจให้++
++อย่าโทษโชคชะตาที่ทำให้เราพบกัน แต่ไม่ได้ทำให้ใจเราตรงกัน++
.....แต่จงยิ้มให้กับตัวเอง ที่อย่างน้อย ถึงจะพบกับเขาคนนั้นสายเกินไป แต่ก็ยังได้พบ..
......ยิ้มให้กับเขา ที่ถึงจะไม่ได้ให้ใจเรามา แต่ก็ยังได้รับหัวใจของเราไป..
......ยิ้มให้กับโชคชะตา ที่ยังทำให้เรา ได้รู้จักกัน ..
เธอควรจะดีใจด้วยซ้ำ ที่ครั้งหนึ่ง
เธอได้พบกับคนที่เธอใส่ใจมากกว่าตัวของเธอเอง
คนที่ทำให้เธอ "หัวเราะ" และ "ร้องไห้ " ได้มากมาย
คนที่เธออยากเก็บ "รอยยิ้ม" ของเขาไว้คนเดียว
คนที่เพียงแค่ยิ้มของเขา ก็สามารถเปลี่ยนวันที่หมองหม่น ให้กลายเป็นวันที่สดใส
.....เท่านี้มันก็เพียงพอแล้ว ไม่ใช่หรือ?.....
แค่การได้เห็นคนที่เรารัก ได้หัวเราะอยู่กับใครสักคนที่เขารักมากที่สุด
...นั่นแหละ คือ ความสุขของการได้ "รัก" อย่างจริงใจ
วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
love story... so impressive...^___^....
ในหลายๆ ความเชื่อเกี่ยวกับความรัก และคู่ชีวิต ..
ความเชื่ออันนึงที่เชื่อว่า.. คู่ชีวิตที่แท้จริง
จะมีด้ายสีแดงผูกที่นิ้วก้อยข้างซ้าย เชื่อมกันไว้
รอจนวันนึง..ด้ายสีแดงนี้จะนำให้เขาทั้งสองมาพบกันและ
รักกันในที่สุด.. .....หลายๆ
คนอาจจะเชื่อแต่คงไม่เชื่อมากเท่าผมแน่ๆ..เพราะผมเห็น...เห็นด้ายสีแดง
ที่นิ้วก้อยข้างซ้ายของผม..ด้ายที่ผูกติดตัวมาตั้งแต่จำความได้..ซึ่งผมเอง
ก็ไม่รู้ว่าปลายอีกข้างนึงของมันจะผูกติดกับใคร
นั่นแหละคือสาเหตุที่ผมเดินทางหาปลายอีกด้านนึงของมัน..
.....เด็กหนุ่มคนนึงที่ต้องการตามหาสิ่งที่ท้าทายที่สุดในชีวิตของเขา..
ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่เค้าตามหาจะอยู่ไกลขนาดไหน..และไม่รู้ว่าจะมีหรือไม่..
แต่เค้าก็เริ่มเดินทาง.. การเดินทางไปตามด้ายสีแดงตรงปลายนิ้วก้อย..
การเดินทางที่รู้ทางเดิน.. แต่ไม่รู้จุดหมาย.......ผมเดินทางไปตามเมือง
ต่างๆที่ด้ายสีแดงของผมพาดผ่าน. ได้พบ ได้เห็นอะไรหลายๆอย่างที่ไม่มีทาง
จะได้เจอในเมืองของผมใจนึงก็คิดว่าเป็นการเรียนรู้ที่ดี..แต่มันก็ไม่ใช่
เป้าหมายที่แท้จริง..เป้าหมายของผมคือ.. ปลายด้ายสีแดง.......
.และแล้วผมก็ได้เพื่อนร่วมเดินทาง.. เมื่อวันนึงผมพบกันผู้หญิงที่ตามหาปลายอีก
ด้านนึงของด้ายแดงเหมือนกัน.. แต่เธอคงไม่ใช่ปลายด้ายแดงของผมหรอก..
เพราะด้ายแดงของผมยังไปอีกไกล........เราพบกันโดยไม่ได้ตั้งใจและก็
ไม่ได้เป็นการพบกันที่ทำให้ผมพอใจมากนัก.. บอกตรงๆ
เธอไม่ใช่ผู้หญิงในสเปคของผมเลย..แถมเราทะเลาะกันตั้งแต่เจอกันครั้งแรก
แต่เราก็ร่วมเดินทางด้วยกันเพราะด้ายสีแดงของเธอกับของผมมันไปทางเดียวกันน่ะสิ.
.....ก็ยังดีนะ ที่ผมไม่ได้เดินทางคนเดียวอย่างน้อยก็มีเพื่อนร่วมทาง
ที่เห็นและตามหาปลายอีกข้างนึงของด้ายแดงเหมือนกัน......การเดินทางร่วมกันของเรา
ทำให้ผมเห็นตัวจริงของผู้หญิงคนนี้มากขึ้น..
เป็นตัวจริงที่น่าเคารพน่าให้เกียรติในฐานะผู้หญิงคนนึง..จะว่าไปเธอก็นิสัยดีนะ
ตอนที่ทะเลาะกันครั้งแรกคงเป็นการเข้าใจผิดซะมากกว่า
ความรู้สึกของผมที่มีต่อเธอเริ่มดีมากขึ้นเรื่อยๆ..
มีอยู่ครั้งนึงที่ผมคิดว่าถ้าปลายด้ายแดงอีกข้างนึงของผม
ไปหยุดอยู่ที่นิ้วก้อยของเธอก็คงจะดี..มันก็ไม่แน่นะ..
ถ้าเป็นจริงผมก็คงมีความสุข.. แต่ถ้าไม่ใช่ ..
ผู้หญิงคนนั้นคงเป็นผู้หญิงที่วิเศษกว่าเธอคนนี้แน่ๆ ..
ยิ่งผมได้รู้ว่าเพื่อนร่วมเดินทางของผมเป็นผู้หญิงที่วิเศษเพียงใด
ผมก็ยิ่งอยากให้ผมเจอปลายด้ายแดงของผมไวๆ ..ผู้หญิงที่ดีกว่าผู้หญิงคนนี้
ผู้หญิงที่เป็นเนื้อคู่ของผมจะเป็นยังไงน๊า.. .....นานขนาดไหนก็ไม่รู้ที่เรา
ร่วมเดินทางด้วยกัน.. ผมยอมรับว่าเธอเป็นเพื่อนร่วมเดินทางที่ดีที่สุด.
.เราช่วยเหลือกันมาตลอด.. แต่มันก็คงจะสิ้นสุดแล้วล่ะ..
เพราะด้ายแดงของผมกับเธอมันแยกกัน..ตรงทางแยกพอดี.. ทางแยกนี้มันแยกไป
สู่เมืองสองเมือง ..ด้ายของผมแยกไปทางขวา..มุ่งสู่เมืองบนยอดเขา
ซึ่งผมเชื่อว่าคงเป็นปลายด้ายของผมแล้วล่ะ ..เพราะเมืองนี้อยู่ยอดเขาพอดี..
ส่วนของเธอแยกออกไปที่เมืองข้างล่าง.......เรายืนคุยกันตรงทางแยกซักพักนึง
เพื่อกล่าวคำอำลาและแสดงความยินดีซึ่งกันและกันเราจะได้เจอจุดหมายของเราซักที..
ข้อตกลงสุดท้ายของเราก่อนจะแยกจากกันคือเราจะกลับมาเจอกันที่ตรงทางแยกนี้
ไม่ว่าจะเจอหรือไม่เจอปลายด้ายแดงก็ตาม..เราตกลงกันตามนี้..แล้วเราก็แยกทางกัน....
.....ผมรู้สึกแปลกๆ ที่ต้องกลับมาเดินทางคนเดียวทำให้ผมไม่ดีใจมากนักที่รู้ว่า
ปลายด้ายของผมจะไปสุดตรงที่เมืองตรงยอดเขา ผมเดินแยกจากเธอไปช้าๆ..
ในหัวมีแต่เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นตอนที่เราเดินทางด้วยกัน..ความประทับใจต่างๆ
ที่เกิดขึ้นตลอดการเดินทาง.. ความรู้สึกดีๆที่เรามีให้กัน..
.....และแล้วผมก็หยุดเดิน
..หยุดห่างจากทางแยกไม่ไกลเท่าไหร่..แล้วผมก็วิ่งกลับไปยังทางแยกนั้นอีกครั้ง..
ไม่มีเหตุผลที่ผมทำแบบนี้เลย..แต่ก็ทำ..ผมกลับไปถึงทางแยกนั้นอีกครั้ง..ซึ่งเธอก็
นั่งอยู่ที่นี่อยู่ก่อนแล้ว.......เรานั่งคุยกันซักพัก..ผมบอกเธอไปว่าผมก็ไม่รู้
เหมือนกันว่าทำไมผมถึงกลับมา..ส่วนเธอ..เธอบอกว่าเธอกลัว..กลัวว่าจะไม่มีใครตรง
ปลายด้ายแดงของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้..เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเธอร้องไห้..
.....สิ่งที่ผมภูมิใจมากกว่าตัดสินใจการออกเดินทางตามหาคู่ชีวิตของผม
..คือการตัดสินใจครั้งนี้แหละ..ผมเช็ดน้ำตาให้เธอ .. ตัดด้ายแดงของผม
และเธอออกแล้วผูกเข้าด้วยกัน...ผมไม่รู้หรอกว่าเธอจะโกรธผมรึเปล่าที่ผมทำแบบนี้..
อยากจะถามเธออยู่หรอกแต่เธอก็ร้องไห้ไม่หยุด.. และกำลังกอดผมอยู่...
ความเชื่ออันนึงที่เชื่อว่า.. คู่ชีวิตที่แท้จริง
จะมีด้ายสีแดงผูกที่นิ้วก้อยข้างซ้าย เชื่อมกันไว้
รอจนวันนึง..ด้ายสีแดงนี้จะนำให้เขาทั้งสองมาพบกันและ
รักกันในที่สุด.. .....หลายๆ
คนอาจจะเชื่อแต่คงไม่เชื่อมากเท่าผมแน่ๆ..เพราะผมเห็น...เห็นด้ายสีแดง
ที่นิ้วก้อยข้างซ้ายของผม..ด้ายที่ผูกติดตัวมาตั้งแต่จำความได้..ซึ่งผมเอง
ก็ไม่รู้ว่าปลายอีกข้างนึงของมันจะผูกติดกับใคร
นั่นแหละคือสาเหตุที่ผมเดินทางหาปลายอีกด้านนึงของมัน..
.....เด็กหนุ่มคนนึงที่ต้องการตามหาสิ่งที่ท้าทายที่สุดในชีวิตของเขา..
ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่เค้าตามหาจะอยู่ไกลขนาดไหน..และไม่รู้ว่าจะมีหรือไม่..
แต่เค้าก็เริ่มเดินทาง.. การเดินทางไปตามด้ายสีแดงตรงปลายนิ้วก้อย..
การเดินทางที่รู้ทางเดิน.. แต่ไม่รู้จุดหมาย.......ผมเดินทางไปตามเมือง
ต่างๆที่ด้ายสีแดงของผมพาดผ่าน. ได้พบ ได้เห็นอะไรหลายๆอย่างที่ไม่มีทาง
จะได้เจอในเมืองของผมใจนึงก็คิดว่าเป็นการเรียนรู้ที่ดี..แต่มันก็ไม่ใช่
เป้าหมายที่แท้จริง..เป้าหมายของผมคือ.. ปลายด้ายสีแดง.......
.และแล้วผมก็ได้เพื่อนร่วมเดินทาง.. เมื่อวันนึงผมพบกันผู้หญิงที่ตามหาปลายอีก
ด้านนึงของด้ายแดงเหมือนกัน.. แต่เธอคงไม่ใช่ปลายด้ายแดงของผมหรอก..
เพราะด้ายแดงของผมยังไปอีกไกล........เราพบกันโดยไม่ได้ตั้งใจและก็
ไม่ได้เป็นการพบกันที่ทำให้ผมพอใจมากนัก.. บอกตรงๆ
เธอไม่ใช่ผู้หญิงในสเปคของผมเลย..แถมเราทะเลาะกันตั้งแต่เจอกันครั้งแรก
แต่เราก็ร่วมเดินทางด้วยกันเพราะด้ายสีแดงของเธอกับของผมมันไปทางเดียวกันน่ะสิ.
.....ก็ยังดีนะ ที่ผมไม่ได้เดินทางคนเดียวอย่างน้อยก็มีเพื่อนร่วมทาง
ที่เห็นและตามหาปลายอีกข้างนึงของด้ายแดงเหมือนกัน......การเดินทางร่วมกันของเรา
ทำให้ผมเห็นตัวจริงของผู้หญิงคนนี้มากขึ้น..
เป็นตัวจริงที่น่าเคารพน่าให้เกียรติในฐานะผู้หญิงคนนึง..จะว่าไปเธอก็นิสัยดีนะ
ตอนที่ทะเลาะกันครั้งแรกคงเป็นการเข้าใจผิดซะมากกว่า
ความรู้สึกของผมที่มีต่อเธอเริ่มดีมากขึ้นเรื่อยๆ..
มีอยู่ครั้งนึงที่ผมคิดว่าถ้าปลายด้ายแดงอีกข้างนึงของผม
ไปหยุดอยู่ที่นิ้วก้อยของเธอก็คงจะดี..มันก็ไม่แน่นะ..
ถ้าเป็นจริงผมก็คงมีความสุข.. แต่ถ้าไม่ใช่ ..
ผู้หญิงคนนั้นคงเป็นผู้หญิงที่วิเศษกว่าเธอคนนี้แน่ๆ ..
ยิ่งผมได้รู้ว่าเพื่อนร่วมเดินทางของผมเป็นผู้หญิงที่วิเศษเพียงใด
ผมก็ยิ่งอยากให้ผมเจอปลายด้ายแดงของผมไวๆ ..ผู้หญิงที่ดีกว่าผู้หญิงคนนี้
ผู้หญิงที่เป็นเนื้อคู่ของผมจะเป็นยังไงน๊า.. .....นานขนาดไหนก็ไม่รู้ที่เรา
ร่วมเดินทางด้วยกัน.. ผมยอมรับว่าเธอเป็นเพื่อนร่วมเดินทางที่ดีที่สุด.
.เราช่วยเหลือกันมาตลอด.. แต่มันก็คงจะสิ้นสุดแล้วล่ะ..
เพราะด้ายแดงของผมกับเธอมันแยกกัน..ตรงทางแยกพอดี.. ทางแยกนี้มันแยกไป
สู่เมืองสองเมือง ..ด้ายของผมแยกไปทางขวา..มุ่งสู่เมืองบนยอดเขา
ซึ่งผมเชื่อว่าคงเป็นปลายด้ายของผมแล้วล่ะ ..เพราะเมืองนี้อยู่ยอดเขาพอดี..
ส่วนของเธอแยกออกไปที่เมืองข้างล่าง.......เรายืนคุยกันตรงทางแยกซักพักนึง
เพื่อกล่าวคำอำลาและแสดงความยินดีซึ่งกันและกันเราจะได้เจอจุดหมายของเราซักที..
ข้อตกลงสุดท้ายของเราก่อนจะแยกจากกันคือเราจะกลับมาเจอกันที่ตรงทางแยกนี้
ไม่ว่าจะเจอหรือไม่เจอปลายด้ายแดงก็ตาม..เราตกลงกันตามนี้..แล้วเราก็แยกทางกัน....
.....ผมรู้สึกแปลกๆ ที่ต้องกลับมาเดินทางคนเดียวทำให้ผมไม่ดีใจมากนักที่รู้ว่า
ปลายด้ายของผมจะไปสุดตรงที่เมืองตรงยอดเขา ผมเดินแยกจากเธอไปช้าๆ..
ในหัวมีแต่เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นตอนที่เราเดินทางด้วยกัน..ความประทับใจต่างๆ
ที่เกิดขึ้นตลอดการเดินทาง.. ความรู้สึกดีๆที่เรามีให้กัน..
.....และแล้วผมก็หยุดเดิน
..หยุดห่างจากทางแยกไม่ไกลเท่าไหร่..แล้วผมก็วิ่งกลับไปยังทางแยกนั้นอีกครั้ง..
ไม่มีเหตุผลที่ผมทำแบบนี้เลย..แต่ก็ทำ..ผมกลับไปถึงทางแยกนั้นอีกครั้ง..ซึ่งเธอก็
นั่งอยู่ที่นี่อยู่ก่อนแล้ว.......เรานั่งคุยกันซักพัก..ผมบอกเธอไปว่าผมก็ไม่รู้
เหมือนกันว่าทำไมผมถึงกลับมา..ส่วนเธอ..เธอบอกว่าเธอกลัว..กลัวว่าจะไม่มีใครตรง
ปลายด้ายแดงของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้..เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเธอร้องไห้..
.....สิ่งที่ผมภูมิใจมากกว่าตัดสินใจการออกเดินทางตามหาคู่ชีวิตของผม
..คือการตัดสินใจครั้งนี้แหละ..ผมเช็ดน้ำตาให้เธอ .. ตัดด้ายแดงของผม
และเธอออกแล้วผูกเข้าด้วยกัน...ผมไม่รู้หรอกว่าเธอจะโกรธผมรึเปล่าที่ผมทำแบบนี้..
อยากจะถามเธออยู่หรอกแต่เธอก็ร้องไห้ไม่หยุด.. และกำลังกอดผมอยู่...
คำคม DoNot
Don't wait for a smile to be nice..
อย่ารอคอยให้ได้รับรอยยิ้ม แล้วจึงทำดี
Don't wait to be loved, to love.
อย่ารอคอยให้มีคนรัก แล้วจึงมอบความรักแก่ผู้อื่น
Don't wait to be lonely, to recognize the value of a friend.
อย่ารอคอยจนกลายเป็นคนโดดเดี่ยว แล้วจึงเห็นคุณค่าของเพื่อน
Don't wait for the best job, to begin to work.
อย่ารอคอยให้ได้งานที่ดีที่สุด แล้วจึงเริ่มทำงาน
Don't wait to have a lot, to share a bit.
อย่ารอคอยให้มีมากๆ แล้วจึงเริ่มแบ่งปันเพียงน้อยนิด
Don't wait for the fall, to remember the advice.
อย่ารอคอยจนพบความล้มเหลว จึงจดจำคำแนะนำของผู้อื่น
Don't wait for pair, to believe in prayer.
อย่ารอคอยจนพบเนื้อคู่ แล้วจึงเชื่อในคำอธิษฐาน
Don't wait to have time, to be able to serve.
อย่ารอคอยให้มีเวลา แล้วจึงทำประโยชน์
Don't wait for anybody else pain,
to ask for apologies... neitherseperation to make it up.
อย่ารอคอยให้คนอื่นเจ็บปวดเสียก่อน
แล้วจึงขอโทษ หรือเลิกคบกันก่อนแล้วจึงหวนมาคืนดี
Don't wait... Because you don't know how long it will takes.
อย่ารอคอย......เพราะคุณไม่รู้ว่ามันจะต้องใช้เวลานานเท่าใด
ที่มา :http://bbs.pramool.com/webboard/view.php3?katoo=r719294&page=26
อย่ารอคอยให้ได้รับรอยยิ้ม แล้วจึงทำดี
Don't wait to be loved, to love.
อย่ารอคอยให้มีคนรัก แล้วจึงมอบความรักแก่ผู้อื่น
Don't wait to be lonely, to recognize the value of a friend.
อย่ารอคอยจนกลายเป็นคนโดดเดี่ยว แล้วจึงเห็นคุณค่าของเพื่อน
Don't wait for the best job, to begin to work.
อย่ารอคอยให้ได้งานที่ดีที่สุด แล้วจึงเริ่มทำงาน
Don't wait to have a lot, to share a bit.
อย่ารอคอยให้มีมากๆ แล้วจึงเริ่มแบ่งปันเพียงน้อยนิด
Don't wait for the fall, to remember the advice.
อย่ารอคอยจนพบความล้มเหลว จึงจดจำคำแนะนำของผู้อื่น
Don't wait for pair, to believe in prayer.
อย่ารอคอยจนพบเนื้อคู่ แล้วจึงเชื่อในคำอธิษฐาน
Don't wait to have time, to be able to serve.
อย่ารอคอยให้มีเวลา แล้วจึงทำประโยชน์
Don't wait for anybody else pain,
to ask for apologies... neitherseperation to make it up.
อย่ารอคอยให้คนอื่นเจ็บปวดเสียก่อน
แล้วจึงขอโทษ หรือเลิกคบกันก่อนแล้วจึงหวนมาคืนดี
Don't wait... Because you don't know how long it will takes.
อย่ารอคอย......เพราะคุณไม่รู้ว่ามันจะต้องใช้เวลานานเท่าใด
ที่มา :http://bbs.pramool.com/webboard/view.php3?katoo=r719294&page=26
ประโยคเด็ดๆ
You will see a lot of things, but they will mean
nothing to you If you lose sight of the thing you
love.
คุณจะเห็นสิ่งต่างๆ มากมาย แต่นั่นจะไม่มีความหมายใดๆ
เลย ถ้าหากว่าคุณไม่ได้มองเห็นสิ่งที่คุณรัก
==at first sight ==
If you love someone you say it, you say it right then,
out loud, or the moment just passes you by.
ถ้าคุณรักใครสักคน จงพูดมันออกมา ตะโกนมันออกมาดังๆ
หรือจะปล่อยให้เวลานั้นมันผ่านพ้นไปเฉยๆ
== my best friend's wedding ==
I would rather have had One breath of her hair, one
kiss from her mouth, one touch of her hand, than
eternity without it. One!
ผมขอเพียงแค่..ได้สูดกลิ่นจาผมของคุณแค่เพียงครั้ง
ได้สัมผัสรสจูบจากปากของคุณ ได้สัมผัสไออุ่นจากมือของคุณ
แค่เพียงครั้งเดียว มากกว่าที่จะอยู่เป็นอมตะ
== city of angels ==
When you realise you want to spend the rest of your
life with somebody, you want the rest of your life to
start as soon as possible.
เมื่อคุณเชื่อว่าคุณจะอยู่กับใครสักคนจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
คุณก็อยากให้เวลานั้นมันมาถึงเร็วๆ จริงๆสักที
== when harry met sally ==
There is a place you can touch a woman that will drive
her crazy. Her heart.
มีที่อยู่ที่หนึ่ง ที่คุณสามารถทำให้ผู้หญิงคนหนึ่ง
คลั่งใคล้หลงไหลได้ นั่นคือ หัวใจของเธอ
==milk money ==
You will be doing anything for the one you love.
Except love them again.
คุณสามารถทำอะไรก็ได้เพื่อคนที่คุณรัก
ยกเว้นอยู่อย่างเดียวคือรักเธออีกครั้ง
==faithful ==
I love you without knowing how, why, or even from
where
ผมรักคุณโดยไม่ต้องรู้ว่ารักยังไง รักทำไม หรือรักที่ไหน
= patch adams ==
A life without love, is no life at all"
ชีวิตที่อยู่โดยไม่มีความรัก
มันก็เหมือนกับการไม่มีชีวิตอยู่
== ever after ==
You cannot find true love where it does not truly
exist and you cannot hide it where it truly does
คุณไม่สามารถค้นหารักแท้นั้นได้ หากรักนั้นไม่มีอยู่จริง
และคุณไม่สามารถปิดบังรักนั้นได้ หากมันมีอยู่จริง
== kissing a fool ==
How come we don't always know when love begins, but we
always know when it ends?
ทำไมเราไม่เคยรู้เลยว่ารักมันเริ่มต้นเมื่อไหร่แต่เราจะรู้เสมอว่ารักมันจบลงเมื่อไห
ร่
== LA story ==
Will you love me for the rest of my life? No, I'll
love you for the rest of mine.
== phenomenon ==
You'll always know when the right person walks into
your life.
คุณจะรู้ได้ทันทีเลยว่า
ใครคือตัวจริงที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของคุณ
== the butcher's wife ==
If he's the right man for you, you can't just let him
slip on by.
ถ้าเขาใช่ อย่าปล่อย "มัน" ให้ผ่านไป
== the butcher's wife ==
Fate exists but it can only take you so far, because
once you're there. It's up to you to make it happen.
ชะตาชีวิตน่ะ มันมีอยู่แล้ว
แต่ว่ามันพาคุณไปได้ไม่ไกลหรอก
เพราะชีวิตของคคุณขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเอง
== can't hardly wait ==
Love won't obey our expectations, Its mystery is pure
and absolute.
== bridges of madison county ==
The only feeling of real loss is when you love someone
more than you love your self.
คุณจะรู้สึกสูญเสียจริงๆ ก็ต่อเมื่อคุณสูญเสียใครสักคน
ที่คุณรักมากกว่ารักตัวคุณเอง
ที่มา :http://atcloud.com/stories/22492
nothing to you If you lose sight of the thing you
love.
คุณจะเห็นสิ่งต่างๆ มากมาย แต่นั่นจะไม่มีความหมายใดๆ
เลย ถ้าหากว่าคุณไม่ได้มองเห็นสิ่งที่คุณรัก
==at first sight ==
If you love someone you say it, you say it right then,
out loud, or the moment just passes you by.
ถ้าคุณรักใครสักคน จงพูดมันออกมา ตะโกนมันออกมาดังๆ
หรือจะปล่อยให้เวลานั้นมันผ่านพ้นไปเฉยๆ
== my best friend's wedding ==
I would rather have had One breath of her hair, one
kiss from her mouth, one touch of her hand, than
eternity without it. One!
ผมขอเพียงแค่..ได้สูดกลิ่นจาผมของคุณแค่เพียงครั้ง
ได้สัมผัสรสจูบจากปากของคุณ ได้สัมผัสไออุ่นจากมือของคุณ
แค่เพียงครั้งเดียว มากกว่าที่จะอยู่เป็นอมตะ
== city of angels ==
When you realise you want to spend the rest of your
life with somebody, you want the rest of your life to
start as soon as possible.
เมื่อคุณเชื่อว่าคุณจะอยู่กับใครสักคนจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
คุณก็อยากให้เวลานั้นมันมาถึงเร็วๆ จริงๆสักที
== when harry met sally ==
There is a place you can touch a woman that will drive
her crazy. Her heart.
มีที่อยู่ที่หนึ่ง ที่คุณสามารถทำให้ผู้หญิงคนหนึ่ง
คลั่งใคล้หลงไหลได้ นั่นคือ หัวใจของเธอ
==milk money ==
You will be doing anything for the one you love.
Except love them again.
คุณสามารถทำอะไรก็ได้เพื่อคนที่คุณรัก
ยกเว้นอยู่อย่างเดียวคือรักเธออีกครั้ง
==faithful ==
I love you without knowing how, why, or even from
where
ผมรักคุณโดยไม่ต้องรู้ว่ารักยังไง รักทำไม หรือรักที่ไหน
= patch adams ==
A life without love, is no life at all"
ชีวิตที่อยู่โดยไม่มีความรัก
มันก็เหมือนกับการไม่มีชีวิตอยู่
== ever after ==
You cannot find true love where it does not truly
exist and you cannot hide it where it truly does
คุณไม่สามารถค้นหารักแท้นั้นได้ หากรักนั้นไม่มีอยู่จริง
และคุณไม่สามารถปิดบังรักนั้นได้ หากมันมีอยู่จริง
== kissing a fool ==
How come we don't always know when love begins, but we
always know when it ends?
ทำไมเราไม่เคยรู้เลยว่ารักมันเริ่มต้นเมื่อไหร่แต่เราจะรู้เสมอว่ารักมันจบลงเมื่อไห
ร่
== LA story ==
Will you love me for the rest of my life? No, I'll
love you for the rest of mine.
== phenomenon ==
You'll always know when the right person walks into
your life.
คุณจะรู้ได้ทันทีเลยว่า
ใครคือตัวจริงที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของคุณ
== the butcher's wife ==
If he's the right man for you, you can't just let him
slip on by.
ถ้าเขาใช่ อย่าปล่อย "มัน" ให้ผ่านไป
== the butcher's wife ==
Fate exists but it can only take you so far, because
once you're there. It's up to you to make it happen.
ชะตาชีวิตน่ะ มันมีอยู่แล้ว
แต่ว่ามันพาคุณไปได้ไม่ไกลหรอก
เพราะชีวิตของคคุณขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเอง
== can't hardly wait ==
Love won't obey our expectations, Its mystery is pure
and absolute.
== bridges of madison county ==
The only feeling of real loss is when you love someone
more than you love your self.
คุณจะรู้สึกสูญเสียจริงๆ ก็ต่อเมื่อคุณสูญเสียใครสักคน
ที่คุณรักมากกว่ารักตัวคุณเอง
ที่มา :http://atcloud.com/stories/22492
เทพนิยาย
เฮนรี่ : เทพนิยายกรีก-โรมัน คราวแล้วนำเสนอถึงเรื่องราวคราวรักของ “พีรามัส-ธิสบี” ต้นกำเนิดวรรณกรรม “โรมิโอ-จูเลียต” ... และคราวนี้นะคับ เฮนรี่ขอเสนอ “ออร์ฟิอัส กับ ยูริดิซี” เรื่องราวความรักที่เล่าผ่านกันมาเป็นพันปี กับชายคนที่มีพรสวรรค์ด้านดนตรี ยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อจะไปช่วยคนรักจากความตาย ..... ติดตามเรื่องราวนี้ไปพร้อมๆกับเฮนรี่สิค้าบ (เฮนรี่พิมพ์และเผยแพร่มาเพื่อเป็นความรู้ ผมขออนุญาตทางหนังสือ “Mythology ปกรณัมปรัมปรา” สำนักพิมพ์อัมรินทร์พรินติงแอนด์พับบลิชชิง มา ณ ตรงนี้ด้วยนะคับ
ที่มา:http://atcloud.com/stories/95949
ที่มา:http://atcloud.com/stories/95949
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)